ประวัติความเป็นมา

ประวัติความเป็นมา | HISTORY

ส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง เมืองเกษตรอินทรีย์ มีเอกลักษณ์วัฒนธรรม นำหลักธรรมาภิบาล

ประวัติบ้านคำพระโดยสังเขป

ก่อนตั้งบ้านคำพระ

     ภูมิภาคส่วนนี้เป็นพื้นที่ป่า มีต้นไม้นานาชนิดปะปนกัน เรียกว่า “ป่าเบญจพรรณ” มีหนองน้ำใหญ่อยู่ทาง
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีเนินอยู่ตรงกลางหนองน้ำสามโนน(เนิน) มีถนนตัดผ่าน และมีลำเหมืองสำหรับระบายน้ำ พอถึงฤดูฝน น้ำจะท่วม ในพื้นที่ป่าแห่งนี้จะมีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ เช่น ช้าง เสือ กวาง ละมั่ง นางเก้า กระจง และนกนานาชนิด

ภูมิลำเนาดั่งเดิม

     ชาวบ้านคำพระนี้แต่เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ซึ่งตอนนั้นเรียกว่า “นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน” ซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่า อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี ผู้ครองนครมีนามว่า “พระวอสะตา” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระวรตา” ได้ถูกเจ้าอนุเวียงจันทร์รุกรานข่มเหง จึงได้ชวนเพื่อน ๆ ตลอดจนเครือญาติอพยพ หนีลงมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมาสร้างบ้านแปลงเมืองอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูลในท้องที่ที่เรียกว่า”ดงอู่ผึ้ง”

     ส่วนบรรพบุรุษของชาวบ้านคำพระก็ได้อพยพติดตามพระวรตาลงมาภายหลัง มีหัวหน้าเป็นผู้ควบคุมชื่อ “ท้าวพลเพีย” ได้มาก่อสร้างภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านคำพระ ซึ่งสมัยนั้นชื่อ “บ้านหนองโพน(โนน)”เพราะในหนองน้ำใหญ่มีโนน(เนิน) อยู่กลางหนองน้ำสามโนน(เนิน) เรียกว่า โนนใหญ่ โนนน้อย โนนแต้

     ต่อมามีประชากรหนาแน่นขึ้น จึงได้ขยายหมูบ้านเข้าไปในดง(ป่า) เมื่อท้าวพลเพีย(หัวหน้า) เสียชีวิต ชาวบ้านจึงได้แต่งตั้งให้ท้าวอำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง และได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านใหม่ว่า “บ้านคำมะแงว” เพราะในป่ามีต้นมะแงวมาก และมีน้ำซึมซับ น้ำคำไหลลงมาที่หนองโพน(โนน) และพื้นที่ราบซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตก มีน้ำซึมซับรอบหมู่บ้าน

     ต่อมาเมื่อท้าวอำเภอเสียชีวิตลง จึงได้แต่งตั้งหัวหน้าขึ้นใหม่ชื่อ “ท้าวตาแสง บุตรราษฎร์” ซึ่งขณะนั้นมีคนไปพบพระพุทธรูปใหญ่ อยู่ในกลางโนน(เนิน) ซึ่งมีป่ายางขึ้นอยู่หนาแน่น ชาวบ้านจึงพากันไปกราบไหว้ เพราะถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ พอถึงเทศกาลสงกรานต์ ชาวบ้านก็ได้นำดอกไม้ธูปเทียน พร้อมด้วยน้ำอบน้ำหอมไปสรงพระพุทธรูป จนเป็นประเพณีสืบต่อกันมาหลายสมัย จนพระพุทธรูปองค์นั้นได้ถูกลักขโมยไป ท้าวตาแสง บุตรราษฎร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าปกครองอยู่ จึงได้เปลี่ยนชื่อบ้านใหม่ว่า “บ้านคำพระ” เพื่อเป็นสิริมงคล โดยถือเอารอบหมู่บ้านที่มีน้ำซับ น้ำคำ ไหลตลอดทั้งปี พร้อมได้พบพระพุทธรูปใหญ่ที่สถิตอยู่กลางดงไม้ยาง ชาวบ้านเรียก”ว่าโนนพระ” มาเป็นชื่อบ้านมาจนถึงทุกวันนี้

     ต่อมาได้มีการแบ่งกลุ่มชาวบ้านออกเป็นฝ่าย แต่ละฝ่ายมีหัวหน้าปกครอง เช่น ฝ่ายเหนือซึ่งมี ฝ่ายศรีสุราษฎร์ เป็นหัวหน้า ฝ่ายกลาง มีฝ่ายบุตรวงศ์ เป็นหัวหน้า ฝ่ายใต้ มีฝ่ายสอน เป็นหัวหน้า

     ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินได้ตราพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ขึ้นใหม่ จัดเป็นบ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ขึ้น และบ้านคำพระจึงเปลี่ยนเป็น บ้านคำพระ หมู่ที่ 1-2-3 และตำบลก็เรียกว่า “ตำบลคำพระ” มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นหัวหน้าตำบล และหมูบ้าน ตามลำดับจนถึงทุกวันนี้ ระยะเวลาตั้งแต่วันเริ่มก่อตั้งบ้านคำพระ จนถึงทุกวันนี้ ประมาณ 164 ปี (นับถึง พ.ศ. 2524)

ออกแบบโดย โบทโมบายแอนด์ไอที